การใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตสินค้าต่าง ๆ

พลังงานจากแสงอาทิตย์นับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก ทั้งมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น พลังงานจากแสงอาทิตย์ทำให้เกิดความแตกต่างของสภาพอากาศทั่วโลก ทำให้เกิดการหมุนเวียนของกระแสอากาศ หรือแม้แต่ให้พืช สามารถสังเคราะห์แสงเพื่อผลิตเป็นอาหาร ดังแสดงในรูปที่ 1และยังเป็นพลังงานที่ยั่งยืนของมนุษย์ ปัจจุบัน มนุษย์มีการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์มากมาย ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และการผลิตความร้อนจากแสงอาทิตย์ และด้วยความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ปัจจุบันมนุษย์ได้ค้นคิดการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในรูปแบบต่าง ๆ มากมายเพิ่มเติมจากอดีต เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์และลดการใช้พลังงานจากฟอสซิลลง เพื่อลดภาวะโลกร้อน เพื่อให้มนุษย์อยู่บนโลกนี้อย่างยั่งยืน พลังงานหมุนเวียนที่เกิดขึ้นบนโลก ไม่ว่าจะเป็น พลังงานลม น้ำขึ้น น้ำลง หรือแม้แต่พลังงานจากชีวมวล ล้วนเกิดจากพลังงานจากดวงอาทิตย์ทั้งสิ้น ซึ่งรูปแบบการเกิดแตกต่างกันออกไป พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานที่ดวงอาทิตย์ปลดปล่อยออกมาซึ่งดวงอาทิตย์ห่างออกไปจากโลก 149.6 ล้านกิโลเมตร

ดวงอาทิตย์ เป็นดาวฤกษ์ เป็นจุดศูนย์กลางของระบบสุริยะ โดยมีดาวเคราะห์ทบริวารโคจรอยู่รอบ ๆ มากมาย เช่น ดาวพุธ ดาวศุกร์ และโลก ดวงอาทิตย์มีมวล 1.9891x 1030 กิโลกรัม ความหนาแน่นเฉลี่ย 1,409 กิโลกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร ดวงอาทิตย์ประกอบด้วย ไฮโดรเจน ร้อยละ 74 โดยมวล ฮีเลียมร้อยละ 25 โดยมวล และธาตุอื่น ๆ อีกร้อยละ 1 ดวงอาทิตย์ประกอบด้วย 5 ส่วนหลัก ๆ คือ ส่วนแกนปฏิกิริยา หรือใจกลางดวงอาทิตย์ ส่วนการแผ่รังสี ส่วนการพาความร้อน ส่วนโฟโตสเฟียร์ และส่วนสุดท้ายจะเป็นส่วนบรรยากาศของดวงอาทิตย์ ศักยภาพการใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ขึ้นอยู่กับปริมาณรังสีดวงอาทิตย์ที่ตกกระทบพื้นที่ ถ้าปริมาณรังสีตกกระทบมาก ย่อมหมายถึงการใช้ประโยชน์ได้มากเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณรังสีอย่างเดียวคงไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ศักยภาพสูงสุด ถ้าอุปกรณ์เครื่องมือในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ไปเป็นพลังงานรูปแบบอื่นที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มีประสิทธิภาพต่ำ ดังนั้น การออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์การแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ไปเป็นพลังงานที่ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ย่อมเป็นเรื่องสำคัญและควรตระหนักในการพัฒนาอย่างยิ่งยวด